“โรคพิษสุนัขบ้า” หรือ “โรคกลัวน้ำ” ที่รู้จักกันเกิดจากเชื้อไวรัสเรบี่ส์ (Rabies Virus) โดยมีสัตว์นำโรค ได้แก่ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด ทั้งสัตว์เลี้ยงและสัตว์ป่า เช่น สุนัข แมว กระต่าย กระรอก กระแต หนู ลิง ชะนี แพะ แกะ วัว ควาย เป็นต้น
แต่สัตว์นำโรคที่สำคัญที่สุดก็คือ “สุนัข” เพราะมนุษย์ติดเชื้อนี้จากการถูกสัตว์ที่มีเชื้อพิษสุนัขบ้ากัด ข่วน หรือน้ำลายกระเด็นเข้าบาดแผลจากสุนัขมากที่สุดเพราะสุนัขถือเป็นสัตว์เลี้ยงที่คนนิยมเลี้ยงมากที่สุด ทำให้เมื่อมีการใกล้ชิดกับมนุษย์มากจึงมีโอกาสเกิดโรคนี้มากขึ้นกว่าสัตว์อื่นๆ
ทั้งนี้ ปัจจุบันยังไม่มียารักษาโรคพาสุนัขบ้า แต่เรามีวัคซีนที่สามารถป้องกันไม่ให้เกิดโรคนี้ได้ (Preventable disease) เพียงแค่นำสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์จรจัดมาฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งในปัจจุบันถือเป็นวิธีการป้องกันโรคนี้ที่ดีที่สุด
วันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก (World Rabies Day) จัดขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 2007 โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์กรโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE) โดยถูกกำหนดให้จัดตรงกับวันที่ 28 ก.ย.ของทุกปี ซึ่งเป็นวันเสียชีวิตของ “หลุยส์ ปาสเตอร์” ผู้ผลิตวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า สำหรับฉีดให้คนที่ถูกสุนัขบ้ากัดได้สำเร็จเป็นครั้งแรก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงอันตรายจากโรคพิษสุนัขบ้าและร่วมมือร่วมใจป้องกันโรคนี้ด้วยการให้วัคซีนกับสัตว์เลี้ยงของตัวเอง
โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์กรโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE) ได้ตั้งเป้าหมายว่าโรคพิษสุนัขบ้าจะหมดไปจากโลกในปี 2563 (2020) World rabies day จึงเป็นแรงกระตุ้นให้ทั่วโลกเร่งรัดการกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดไปจากประเทศ และจากโลก
สำหรับประเทศไทยก็มีการจัดกิจกรรมวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลกต่อเนื่องเรื่อยมาตั้งแต่ปี 2550 ด้วยการร่วมมือกันจากหลายหน่วยงาน เพื่อหวังให้คนไทยปลอดภัยจากโรคนี้มากขึ้น ซึ่งสำนักโรคติดต่อทั่วไป ก็ได้มีคำแนะนำข้อควรปฏิบัติในการลดความเสี่ยงจากการถูกสุนัขกัดหรือโดนทำร้ายโดยปฏิบัติตนตามคำแนะนำ 5 ย. คือ
1. อย่าแหย่ ให้สุนัขโมโห โกรธ
2. อย่าเหยียบ หาง หัว ตัว ขา หรือ ทำให้สุนัขหรือสัตว์ต่างๆ ตกใจ
3. อย่าแยก สุนัขที่กำลังกัดกันด้วยมือเปล่า
4. อย่าหยิบ ชามข้าวหรือเคลื่อนย้ายอาหารขณะที่สุนัขกำลังกินอาหาร
5. อย่ายุ่ง หรือเข้าใกล้กับสุนัขหรือสัตว์ต่างๆ นอกบ้านที่ไม่มีเจ้าของ หรือไม่ทราบประวัติ
แต่ถ้ากรณีถูกสุนัขบ้านหรือถูกสุนัขจรจัด แมว หรือสัตว์อื่นๆ กัดให้รีบล้างแผลด้วยสบู่และน้ำสะอาดหลายๆครั้ง ใส่ยาฆ่าเชื้อเพื่อช่วยลดอัตราเกิดโรคได้ถึงร้อยละ 80-90 และรีบไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขให้เร็วที่สุดเพื่อฉีดวัคซีนป้องกันโรคจนครบตามที่แพทย์แนะนำ
ทั้งนี้ ถ้าหากพบเห็นสัตว์ที่สงสัยว่าอาจเป็นโรคพิษสุนัขบ้าคือ มีอาการ หางตก เดินโซเซ น้ำลายย้อย ลิ้นห้อย ตาขวาง ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ หรือผู้นำชุมชน และให้ช่วยกันจับโดยระมัดระวังอย่าให้ถูกกัด แล้วกักสัตว์ไว้ดูอาการ 10 วัน หากสัตว์ตายให้นำหัวสัตว์ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก : กลุ่มสื่อสารสาธารณะและภาคีเครือข่าย สำนักโรคติดต่อทั่วไป
"การป้องกัน" - Google News
September 28, 2020 at 08:00AM
https://ift.tt/3mXuRx2
รู้หรือเปล่า? 28 ก.ย.'วันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก' - เดลีนีวส์
"การป้องกัน" - Google News
https://ift.tt/2ZY9SB2
Bagikan Berita Ini
0 Response to "รู้หรือเปล่า? 28 ก.ย.'วันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก' - เดลีนีวส์"
Post a Comment